
มะตัน,มะดัน (พุทรา)
ชื่อสมุนไพร : พุทรา
ชื่ออื่น ๆ : มะควัดดอย(เชียงใหม่), มะตัน, นาวงต้มต้น, หมากทิน(จำปาศักดิ์), มะตค้นหลวง, มะท้อง, มะตอง, มะตันต้น(ภาคเหนือ-พายัพ), มั่งถั่ง(กะเหรี่ยง-ฮ่องสอน), พุดซา(ทั่วไป), มะท้อง(กะเหรี่ยง-กาญจน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zizyphus mauritiana Lam.
วงศ์ : RHAMNACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้นพุทรา เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 30 ฟุต
ใบพุทรา จะมีลักษณะกลมโตประมาณ 1 นิ้วฟุต ตามลำต้น และตามกิ่งก้านนั้น จะเป็นหนาม
ดอกพุทรา จะออกเป็นช่อเล็ก ๆ เป็นสีเหลือง และมีกลิ่นเหม็นมาก
ผลพุทรา จะมีลักษณะกลมโตเท่าผลมะไฟ บางชนิดจะมีผลกลม ตรงปลายผลนั้นจะแหลม คล้ายผลละมุดไทย และบางชนิดก็มีรสหวานมาก บางชนิดก็มีรสเปรี้ยว และฝาดต่าง ๆ กัน
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เปลือกต้น, เมล็ด, ทั้งห้า, ผลดิบ, ใบสด
- สรรพคุณ พุทรา
เปลือกต้น จะมีรสฝาด ใช้ต้มกิน รักษาอาการท้องร่วง และอาเจียน
เมล็ด ใช้เผาไฟป่นทำเป็นยารักษาซางชักของเด็ก หรือใช้ตำสุมหัวเด็ก รักษาอาการหวัด คัดจมูกเวลาเย็น ๆ นอกจากเปลือกและเมล็ดแล้ว
ทั้ง 5 ยังมีรสฝาดเฝื่อน ใช้รักษาอาการบวม รักษาพยาธิ ฝีทั้งปวง อาการลงท้อง และอาการตกเลือด
ผลดิบ รสฝาด กินแก้ไข้
ผลสุก รสหวานฝาดเปรี้ยว กินแก้ไอ ขับเสมหะ
ใบสด ตำสุมหัว แก้หวัด คัดจมูก
ในเวียดนามใช้เมล็ดสด 1-2 เมล็ดหรือเมล็ดแห้ง 6-12 เมล็ด บดให้เป็นผง กินแก้อ่อนเพลีย ทำให้นอนหลับดี และใช้ใบแห้ง 20-40 กรัม ต้นน้ำดื่มแก้หืด
| คุณค่าทางโภชนาการของ พุทรา พุทราสด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 79 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 20.2 กรัม, โปรตีน 1.2 กรัม, ไขมัน 0.2 กรัม, โพแทสเซียม 250 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 23 มิลลิกรัม,แคลเซียม 21 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม, โซเดียม 3 มิลลิกรัม นอกจากนี้ พุทรายังประกอบไปด้วยธาตุอาหารอย่างเหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส และวิตามินชนิดต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 |
| ตัวอย่างเมนูจากพุทรา 1. ชาพุทราจีนผสมขิง ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. ใช้ผลพุทราจีนแห้ง 500 กรัม 2. ขิงแก่ (สด) 100 กรัม 3. น้ำสะอาด 2 ลิตร ขั้นตอนวิธีการทำ 1. ต้มด้วยไฟอ่อน ๆ จนเปลี่ยนสี 2. เทน้ำตาลทรายลงไป 100 กรัม 3. คนให้น้ำตาลละลายจนหมด ปิดไฟสามารถทานได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น 2. กระดูกหมูอ่อนตุ๋นยาจีนใส่พุทราจีน ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. กระดูกหมูอ่อน 1 กิโลกรัม 2. พุทราจีนอบแห้ง 100 กรัม 3. เห็ดหอม 10 ดอก เครื่องตุ๋น 4. ยาจีน 1 ห่อ 5. ซอสปรุงรส 1 ถ้วยตวง 6. ซอสหอยนางรม 1 ถ้วยตวง 7. น้ำสะอาด 2 ลิตร นำน้ำใส่หมอตั้งไฟ ขั้นตอนวิธีการทำ 1. ใส่กระดูกกระดูกหมูใส่ลงไปรอให้เดือดจัด แล้วหมั่นช้อนฟองออกให้หมด 2. ใส่พุทธาจีนอบแห้ง เห็ดหอมเครื่องตุ๋นยาจีนลงไปรอให้เดือด 3. จากนั้นปรุงรสด้วยซอสหอยนามรม ซีอิ้วขาว ใช้ไฟกลางรอให้กระดูกหมูเปื่อยนุ่ม ตักใส่ถ้วยพร้อมเสริฟ |
| ประโยชน์ของ พุทรา ต่อสุขภาพ พุทรา อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติของพุทราในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ 1. อาจช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการนอน สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และสารประกอบฟีนอลิก (Phenolics) ในพุทรา มีคุณสมบัติช่วยต้านอาการซึมเศร้าและบรรเทาภาวะวิตกกังวล ดังนั้น การบริโภคพุทราจึงอาจมีส่วนทำให้หลับสบายหรือหลับได้ยาวนานขึ้น งานวิจัยหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดเมล็ดพุทราต่อการนอนหลับ เผยแพร่ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ปี พ.ศ. 2556 นักวิจัยให้หนูทดลองบริโภคสารสกัดเมล็ดพุทราในอัตราส่วน 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และพบว่าสารดังกล่าว มีประสิทธิภาพทำให้หนูนอนหลับได้นานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับการแพทย์แผนโบราณในหลาย ๆ ประเทศ ที่ใช้สารสกัดจากเมล็ดพุทราเป็นยารักษาอาการนอนไม่หลับและภาวะวิตกกังวล 2. อาจช่วยต้านมะเร็ง สารฟลาโวนอยด์และพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) มีคุณสมบัติร่วมในการต้านมะเร็งผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น การเหนี่ยวนำให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเองหรือกัดกินตัวเอง การ 12. มะตัน,มะดัน (พุทรา) เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับผลไม้ล้านนา โดยอธิบายถึง ความเป็นมา ชื่อสมุนไพร : พุทรา ชื่ออื่น ๆ : มะควัดดอย(เชียงใหม่), มะตัน, นาวงต้มต้น, หมากทิน(จำปาศักดิ์), มะตค้นหลวง, มะท้อง, มะตอง, มะตันต้น(ภาคเหนือ-พายัพ), มั่งถั่ง(กะเหรี่ยง-ฮ่องสอน), พุดซา(ทั่วไป), มะท้อง(กะเหรี่ยง-กาญจน) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zizyphus mauritiana Lam. วงศ์ : RHAMNACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้นพุทรา เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 30 ฟุต ใบพุทรา จะมีลักษณะกลมโตประมาณ 1 นิ้วฟุต ตามลำต้น และตามกิ่งก้านนั้น จะเป็นหนาม ดอกพุทรา จะออกเป็นช่อเล็ก ๆ เป็นสีเหลือง และมีกลิ่นเหม็นมาก ผลพุทรา จะมีลักษณะกลมโตเท่าผลมะไฟ บางชนิดจะมีผลกลม ตรงปลายผลนั้นจะแหลม คล้ายผลละมุดไทย และบางชนิดก็มีรสหวานมาก บางชนิดก็มีรสเปรี้ยว และฝาดต่าง ๆ กัน ส่วนที่ใช้เป็นยา : เปลือกต้น, เมล็ด, ทั้งห้า, ผลดิบ, ใบสด สรรพคุณ พุทรา เปลือกต้น จะมีรสฝาด ใช้ต้มกิน รักษาอาการท้องร่วง และอาเจียน เมล็ด ใช้เผาไฟป่นทำเป็นยารักษาซางชักของเด็ก หรือใช้ตำสุมหัวเด็ก รักษาอาการหวัด คัดจมูกเวลาเย็น ๆ นอกจากเปลือกและเมล็ดแล้ว ทั้ง 5 ยังมีรสฝาดเฝื่อน ใช้รักษาอาการบวม รักษาพยาธิ ฝีทั้งปวง อาการลงท้อง และอาการตกเลือด ผลดิบ รสฝาด กินแก้ไข้ ผลสุก รสหวานฝาดเปรี้ยว กินแก้ไอ ขับเสมหะ ใบสด ตำสุมหัว แก้หวัด คัดจมูก ในเวียดนามใช้เมล็ดสด 1-2 เมล็ดหรือเมล็ดแห้ง 6-12 เมล็ด บดให้เป็นผง กินแก้อ่อนเพลีย ทำให้นอนหลับดี และใช้ใบแห้ง 20-40 กรัม ต้นน้ำดื่มแก้หืด คุณค่าทางโภชนาการของ พุทรา พุทราสด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 79 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต 20.2 กรัม, โปรตีน 1.2 กรัม, ไขมัน 0.2 กรัม, โพแทสเซียม 250 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 23 มิลลิกรัม,แคลเซียม 21 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม, โซเดียม 3 มิลลิกรัม นอกจากนี้ พุทรายังประกอบไปด้วยธาตุอาหารอย่างเหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส และวิตามินชนิดต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 ตัวอย่างเมนูจากพุทรา 1. ชาพุทราจีนผสมขิง ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. ใช้ผลพุทราจีนแห้ง 500 กรัม 2. ขิงแก่ (สด) 100 กรัม 3. น้ำสะอาด 2 ลิตร ขั้นตอนวิธีการทำ 1. ต้มด้วยไฟอ่อน ๆ จนเปลี่ยนสี 2. เทน้ำตาลทรายลงไป 100 กรัม 3. คนให้น้ำตาลละลายจนหมด ปิดไฟสามารถทานได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น 2. กระดูกหมูอ่อนตุ๋นยาจีนใส่พุทราจีน ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. กระดูกหมูอ่อน 1 กิโลกรัม 2. พุทราจีนอบแห้ง 100 กรัม 3. เห็ดหอม 10 ดอก เครื่องตุ๋น 4. ยาจีน 1 ห่อ 5. ซอสปรุงรส 1 ถ้วยตวง 6. ซอสหอยนางรม 1 ถ้วยตวง 7. น้ำสะอาด 2 ลิตร นำน้ำใส่หมอตั้งไฟ ขั้นตอนวิธีการทำ 1. ใส่กระดูกกระดูกหมูใส่ลงไปรอให้เดือดจัด แล้วหมั่นช้อนฟองออกให้หมด 2. ใส่พุทธาจีนอบแห้ง เห็ดหอมเครื่องตุ๋นยาจีนลงไปรอให้เดือด 3. จากนั้นปรุงรสด้วยซอสหอยนามรม ซีอิ้วขาว ใช้ไฟกลางรอให้กระดูกหมูเปื่อยนุ่ม ตักใส่ถ้วยพร้อมเสริฟ 3. พุทราเชื่อม ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. พุทราจีนอบแห้ง 200 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 400 กรัม 3. น้ำเปล่า 500 กรัม ขั้นตอนวิธีการทำ 1. นำพุทราจีนแช่น้ำ 3 ชั่วโมงให้พองตัว 2. แล้วนำมาต้มกับน้ำเปล่าประมาณ 20 นาทีพอเดือด แล้วยกลงเทใส่ 3. กระชอนพักไว้ ตั้งกระทะสำหรับเชื่อมพุทรา 4. ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า คนจนพอน้ำตาลละลาย ใช้ไฟกลางถึงอ่อน 5. นำพุทราจีนลงเชื่อม หมั่นกลับพุทราจีนไปมา เพื่อให้สีเสมอกัน 6. เมื่อน้ำเชื่อมเหนียวข้นพุทราจีนอิ่มน้ำเชื่อมเป็นอันเสร็จรับประทานได้ ประโยชน์ของ พุทรา ต่อสุขภาพ พุทรา อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติของพุทราในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ 1. อาจช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการนอน สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และสารประกอบฟีนอลิก (Phenolics) ในพุทรา มีคุณสมบัติช่วยต้านอาการซึมเศร้าและบรรเทาภาวะวิตกกังวล ดังนั้น การบริโภคพุทราจึงอาจมีส่วนทำให้หลับสบายหรือหลับได้ยาวนานขึ้น งานวิจัยหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดเมล็ดพุทราต่อการนอนหลับ เผยแพร่ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ปี พ.ศ. 2556 นักวิจัยให้หนูทดลองบริโภคสารสกัดเมล็ดพุทราในอัตราส่วน 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และพบว่าสารดังกล่าว มีประสิทธิภาพทำให้หนูนอนหลับได้นานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับการแพทย์แผนโบราณในหลาย ๆ ประเทศ ที่ใช้สารสกัดจากเมล็ดพุทราเป็นยารักษาอาการนอนไม่หลับและภาวะวิตกกังวล 2. อาจช่วยต้านมะเร็ง สารฟลาโวนอยด์และพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) มีคุณสมบัติร่วมในการต้านมะเร็งผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น การเหนี่ยวนำให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเองหรือกัดกินตัวเอง การปรับการทำงานของเอนไซม์ให้มีประสิทธิภาพ การกระตุ้นการผลิตสารไนตริก ออกไซด์ (Nitric Oxide) ภายในร่างกายเพื่อช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว งานวิจัยหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดพุทรา ในการเหนี่ยวนำให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเองและการป้องกันเซลล์มะเร็งเพิ่มจำนวน ตีพิมพ์ในวารสาร Avicenna Journal of Phytomedicine ปี พ.ศ. 2559 นักวิจัยได้เพาะเซลล์มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีสารสกัดพุทราในระดับความเข้มข้นต่างกัน เป็นเวลา 0-72 ชั่วโมงแตกต่างกัน ปรากฏว่า สารสกัดพุทรามีคุณสมบัติต้านมะเร็ง ทั้งนี้ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณของสารสกัดพุทราและระยะเวลาที่ใช้ในการทดสอบ นอกจากนั้น นักวิจัยยังอธิบายเพิ่มเติมว่า คุณสมบัติเหนี่ยวนำให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเองของสารสกัดพุทรา เกี่ยวข้องกับการทำงานของโปรตีนแบ็กซ์ (Bax) ซึ่งควบคุมการทำลายตัวเองของทั้งเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. อาจช่วยป้องกันท้องผูก พุทรามีใยอาหารสูง หรือประมาณ 6 กรัม/พุทรา 100 กรัม ดังนั้น การบริโภคพุทราจึงอาจช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และป้องกันอาการท้องผูกได้ งานวิจัยหนึ่ง เรื่องประสิทธิภาพของสารสกัดพุทราในการรักษาอาการท้องผูกเรื้อรัง เผยแพร่ในวารสาร Digestion ปี พ.ศ. 2552 นักวิจัยได้แบ่งผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้บริโภคสารสกัดพุทรา ส่วนอีกกลุ่มให้บริโภคยาหลอก เป็นเวลา 12 สัปดาห์เท่า ๆ กัน เมื่อการทดลองสิ้นสุดลง นักวิจัยพบว่า กลุ่มที่บริโภคสารสกัดพุทรา ระดับความรุนแรงของอาการท้องผูกลดจากรุนแรงระดับ 6 ลงมาเป็นรุนแรงระดับ 2 และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น นักวิจัยจึงสรุปว่า สารสกัดพุทราอาจมีสรรพคุณเป็นยารักษาอาการท้องผูกเรื้อรังที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 4. อาจช่วยป้องกันเซลล์ประสาท สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ในพุทรา มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระและปกป้องระบบประสาทส่วนกลางจากภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นสาเหตุของความผิดปกติต่าง ๆ ในสมอง นอกจากนี้ ฟลาโวนอยด์ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในสมอง และยับยั้งการสะสมโปรตีนแอมีลอยด์ บีตา (Amyloid Beta) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ งานวิจัยเรื่องคุณสมบัติของผลพุทราต่อการปกป้องสมองจากความเสียหาย เผยแพร่ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ปี พ.ศ. 2560 ระบุว่า ผลพุทรามีคุณสมบัติหลายประการ ที่อาจช่วยป้องกันเซลล์ประสาทเสียหาย เช่น การปกป้องเซลล์ประสาทจากความเป็นพิษต่อระบบประสาท การกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ประสาท การส่งเสริมการเรียนรู้และช่วยให้ความจำดี |
ข้อควรระวังในการบริโภค พุทรา
ข้อควรระวังในการบริโภคพุทรา มีดังต่อไปนี้
- ควรล้างน้ำให้สะอาดก่อนบริโภคเพื่อขจัดฝุ่นละอองหรือเชื้อราที่อาจปนเปื้อนมา
- ไม่ควรรับประทานพุทราในปริมาณมากเกินไปเพราะอาจทำให้ท้องอืดได้
- พุทรา ออกฤทธิ์รบกวนการทำงานของยาเวนลาฟาซีน (Venlafaxine) รวมถึงยาต้านเศร้าในกลุ่มที่ออกฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทหลายชนิด เช่น ดูล็อกซีทีน (Duloxetine) เดสเวนลาแฟ็กซีน (Desvenlafaxine) ยาอะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) ผู้ที่รับประทานยาในกลุ่มนี้จึงควรปรึกษาคุณหมอหาก
- หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตรบริโภคพุทราได้อย่างปลอดภัยในปริมาณที่ไม่มากเกินไป และควรบริโภคอาหารให้ครบทุกหมู่ รวมทั้งผักและผลไม้ให้หลากหลายเพื่อบำรุงร่างกายและได้รับปริมาณสารอาหารครบถ้วน
- นอกจากนี้ งานวิจัยยังระบุว่า พุทราอาจพัฒนาเป็นอาหารเสริมสำหรับป้องกันหรือรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้








