
ข้าวเหนียวแดง
ข้าววิตู หรือข้าวเหนียวแดง บ้างเรียก เข้าอี่ทู หรือเข้าหมี่ตู วิธีการทำนำข้าวเหนียวนึ่งสุก นำไปตั้งไฟผสมกับน้ำอ้อย เมื่อกวนได้ที่แล้วจะนำมาใส่ภาชนะ ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วตัดเป็นชิ้นๆ โรยด้วยงาขาว บ้างรับประทานกับมะพร้าวขูด (รัตนา ไชยนันท์, สัมภาษณ์, 28 มิถุนายน 2550)
ข้าวเหนียวแดงเป็นขนมไทยที่ต้องใช้วิธีการกวน ต้องออกแรงมาก ชาวบ้านจึงอาศัยวันรวมญาติอย่างวันสงกรานต์ ที่มักจะมีพ่อแม่พี่น้องมารวมตัวกัน เพื่อจะได้ช่วยกันลงแรงกวนขนม เมื่อทำเสร็จแล้วก็จะนำไปทำบุญกันในวันสงกรานต์ ขนมข้าวเหนียวแดงจึงเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของความสามัคคีในครอบครัว
นอกจากนี้คนไทยสมัยก่อนยังถือเอาการทำขนมกวน ข้าวเหนียวแก้ว ข้าวเหนียวแดง เป็นตัวบ่งบอกฐานะของตนกันด้วย โดยจะกวนขนมจำนวนมากเพื่อนำไปทำบุญตักบาตร ส่วนขนมที่เหลือจากการทำบุญก็จะนำมาแจกจ่ายให้คนในครอบครัวและเพื่อนบ้านได้กินกันโดยถ้วนทั่ว เป็นการประชันฝีมือการทำขนมกันแบบกลาย ๆ ไปด้วยในตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่า การร่วมด้วยช่วยกันกวนขนมในวันสงกรานต์ และเทศกาลต่าง ๆ เป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานครื้นเครง ลูกเด็กเล็กแดงและคนเฒ่าคนแก่มีส่วนร่วมด้วยหมด เรียกได้ว่าเป็นความหรรษาของเทศกาลสงกรานต์ไม่แพ้การเล่นสาดน้ำ ประแป้งเลยทีเดียว |
ส่วนผสมวัตถุดิบ ข้าวเหนียวแดง 1. ข้าวเหนียวนึ่งสุก 5 ถ้วย 2. กะทิ 3 ถ้วยตวง 3. น้ำตาลปี๊บ 250 กรัม 4. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 5. งาขาวคั่ว 1/2 ถ้วย |
ขั้นตอนวิธีการทำข้าวเหนียวแดง 1. ใส่น้ำตาลปี๊บลงในกระทะทองเหลือง หรือกระทะเทฟลอน นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำตาลละลายเป็นคาราเมลและมีสีเข้มขึ้น จากนั้นค่อย ๆ เทกะทิและใส่เกลือป่นลงไป คนผสมให้เข้ากันดี 2. ใส่ข้าวเหนียวลงกวนกับส่วนผสมน้ำตาล ใช้พายไม้กวนเรื่อย ๆ จนข้าวเหนียวเริ่มแห้งและล่อนออกจากกระทะ หรือประมาณ 15 นาที พักทิ้งไว้สักครู่ให้ขนมจับตัวกันเป็นก้อน 3. ตักขนมใส่ลงในถาดที่ทาน้ำมันพืชบาง ๆ เกลี่ยหน้าขนมให้เรียบ โรยงาขาวคั่ว ตัดเป็นชิ้น พร้อมรับประทาน |
เทคนิคในการทำข้าวเหนียวแดง 1. ถ้าอยากให้ขนมขึ้นเงาสวย หลังจากที่ตักขนมใส่ถาดให้ใช้ใบตองวางลงบนหน้าขนมก่อนโรยงา แล้วเกลี่ยให้เรียบ จากนั้นนำใบตองออกแล้วค่อยโรยงา 2. ถ้าใช้กระทะทองเหลือง สีของขนมจะเข้มกว่าใช้กระทะเทฟลอน |
ข้าวเหนียวกับสารอาหารที่สำคัญในร่างกาย
หลังจากที่ได้รู้จักกับประเภทของข้าวเหนียว ประโยชน์ของข้าวเหนียวกันไปแล้ว เราขอพาไปดูสารอาหารที่อยู่ในข้าวเหนียวกันต่อ อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กันไปแล้วว่าข้าวเหนียวเป็นหนึ่งในชนิดของข้าวที่อุดมด้วยไฟเบอร์และสารอาหารที่สำคัญมากมาย ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีหน้าที่สำคัญในการเจริญเติบโตและรักษาความหนาแน่นของกระดูก ไม่ให้เกิดกระดูกพรุนได้ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน การทำงานของเส้นประสาท การเผาผลาญ และการทำงานของร่างกายอีกด้วย ซึ่งในข้าวเหนียวมีสารอาหาร- คาร์โบไฮเดรต: มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกาย
– โปรตีน: มีปริมาณโปรตีนน้อยเมื่อเทียบกับข้าวสารธรรมดา แต่ก็เป็นแหล่งของโปรตีนสำหรับร่างกาย
– ไขมัน: มีปริมาณไขมันน้อยมาก แต่มีไขมันไม่อิ่มตัวอยู่ด้วย
– ไฟเบอร์: เป็นแหล่งสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
– วิตามินบี: เป็นสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการเผาผลาญอาหารและสร้างพลังงานให้กับร่างกาย
– วิตามินเอ: เป็นสารอาหารที่ช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพผิวและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
– โพแทสเซียม: เป็นสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การเจริญเติบโตของเซลล์และการฟื้นฟูร่างกาย
– ธาตุเหล็ก: เป็นสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
– แมกนีเซียม: เป็นสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันแข็งแรง
นอกจากนี้ ข้าวเหนียวยังมีคุณสมบัติที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ด้วยการประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์ที่สูง แต่มีแคลอรี่ต่ำ ทำให้ข้าวเหนียวเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการรักษาสุขภาพใจและร่างกายของคุณได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปริมาณไขมันและแคลอรี่
ข้อเสียของข้าวเหนียว ข้าวเหนียวให้พลังงานเยอะก็จะให้อนุมูลอิสระเยอะตามไปด้วย เมื่อกินเข้าไปมาก ๆ จะทำให้ง่วงนอน นอกจากนี้ในข้าวเหนียว โดยเฉพาะข้าวเหนียวขาวยังมีสารกลูเต็น ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดความเหนียวหนืด อาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้ได้ ในกรณีผู้สูงอายุ และเด็ก อาจจะทำให้ติดคอ อุดตันลำไส้ หรือทำให้อึดอัดท้อง ระบบทางเดินอาหารไม่ปกติได้ ดังนั้นในผู้ที่มีปัญหาระบบการย่อยอาหารไม่ดี เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ไม่ควรกินข้าวเหนียวในปริมาณมาก และควรเน้นไปที่ข้าวเหนียวดำจะดีกว่า |