
ขนมมันสำปะหลัง
ขนมมันสำปะหลัง หรือ เข้าหนมมันต้าง เป็นขนมที่มักพบขายทั่วไปตามท้องตลาดในภาคเหนือ ใช้มันสำปะหลังโม่ให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลและเกลือ จากนั้นนำใส่ถาดนึ่ง พอสุกจะมีสีเหลืองและเป็นแป้งใส ๆ ทิ้งไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้น ๆ คลุกกับมะพร้าวขูด
อุปกรณ์และวัตถุดิบ
ขนมมันสำปะหลัง หรือ เข้าหนมมันต้าง เป็นขนมที่มักพบขายทั่วไปตามท้องตลาดในภาคเหนือ ใช้มันสำปะหลังโม่ให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลและเกลือ จากนั้นนำใส่ถาดนึ่ง พอสุกจะมีสีเหลืองและเป็นแป้งใสๆ ทิ้งไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นๆ คลุกกับมะพร้าวขูด (ทักษนันท์ อนรรฆพฤฒ, สัมภาษณ์, 5 กรกฏาคม 2550; รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 824)
มันสำปะหลังเป็นพืชสารพัดประโยชน์นิยมนำมาแปรรูปเป็นวัตถุดิบอย่างผงชูรส สารให้ความหวาน และแป้งมันสำปะหลัง ตลอดจนนำมารับประทานเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เช่น บำรุงลำไส้ บำรุงระบบเผาผลาญ หรือรักษาโรคเบาหวาน เพราะมีคาร์โบไฮเดรต เส้นใย และสารอาหารบางชนิดที่เชื่อว่าดีต่อร่างกาย
ข้อมูลโภชนาการ, แคลอรี่, พลังงาน และสารอาหาร ใน มันสำปะหลัง ในปริมาณ 100g มีพลังงานทั้งหมด 156 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 1 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 38 กรัม, ไขมัน 0 กรัม อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 นับว่ามีปริมาณสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายน้อยเมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่น
คาร์โบไฮเดรต 84.90 กรัม, โปรตีน 0.58 กรัม, จาระบี 0.20 กรัม, ไฟเบอร์0.40 กรัม, น้ำ 13.90 กรัม, แคลเซียม12.00 มก, เหล็ก 1.00 มก, แมกนีเซียม 3.00 มก, สังกะสี 0.12 มก, ซีลีเนียม 0.80 μg, โซเดียม 4.00 มก, โพแทสเซียม 20.00 มก, วิตามินบี 2 0.10 มก, วิตามินบี 30.15 มก, วิตามินบี 60.01 มก, วิตามิน B9 (กรดโฟลิก) 1.00 μg
ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. มันสำปะหลัง (พันธุ์ห้านาที) 1700 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 700 กรัม (ชอบหวานมากใส่ 800 กรัม) 3. น้ำต้มใบเตย 2 ถ้วยตวง ( ใบเตย 5 ใบ+น้ำ 3 ถ้วย) 4. มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ลูกเกลือป่น 1 ช้อนชา อุปกรณ์ 1. ถาดอบ 10 x 10 นิ้ว |
ขั้นตอนวิธีการทำ 1. ตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด จากนั้น ใส่ใบเตยลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน และ มีกลิ่นหอม เสร็จแล้ว ปิดไฟ ยกลง ตวงน้ำให้ได้ 2 ถ้วยตวง 2. ใช้มีดปอกเปลือกมันสำปะหลัง คว้านไส้แข็ง ๆ ตรงกลางออก จากนั้น นำไปล้างน้ำ 2 – 3 รอบให้สะอาด หรือ จนกว่าน้ำใส ไม่ขุ่น 3. นำมันสำปะหลังไปขูดเป็นฝอย ๆ ใส่ลงในชามผสม ตามด้วย น้ำตาลทราย น้ำต้มใบเตย แล้วใช้มือนวดไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำตาลจะละลายดี และ ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน 4. ตักเนื้อมันสำปะหลังใส่ถาดอบจนเต็ม แล้วเกลี่ยหน้าให้เรียบ นำไปนึ่งด้วยไฟกลางค่อนไฟแรง เป็นเวลา 30 นาที 5. พอครบเวลา ยกถาดออกจากซึ้งนึ่ง แล้ววางพักไว้ ให้แป้งขนมเย็นตัวลง 6. ใช้ที่ขูด ขูดมะพร้าวทึนทึกเป็นฝอย ๆ จากนั้น นำไปนึ่ง 5 นาที แล้วใส่เกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน 7. ตัดแบ่งขนมมันสำปะหลังเป็นชิ้น ๆ คลุกเคล้ากับมะพร้าวทึนทึกจนทั่ว เสร็จแล้ว ตักเสิร์ฟใส่จาน เป็นอันเสร็จ |
เคล็ดลับทำขนมมันสำปะหลัง 1. ให้เนื้อนุ่มหนุบหนับ ต้องไม่ผสมแป้งลงไป ไม่ว่าเป็น แป้งข้าวเจ้า หรือ แป้งอเนกประสงค์ เพราะจะทำให้เนื้อขนมแข็ง เหนียว เคี้ยวไม่อร่อย ควรใช้แต่ เนื้อมันสำปะหลังขูดฝอย ผสมกับ น้ำตาลทราย และ น้ำเปล่า เป็นหลัก แล้วนำไปนึ่ง ก็จะได้เนื้อขนมนุ่ม หนุบหนับ เคี้ยวมัน ตามต้องการแล้ว 2. นอกจากนี้ ควรใส่มะพร้าวขูดฝอยลงไปคลุกเคล้าด้วย จะช่วยเพิ่มรสสัมผัส ทำให้เคี้ยวอร่อยมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อมะพร้าวที่ใช้ ควรใช้ มะพร้าวทึนทึก เป็นหลัก วิธีการเลือกมะพร้าวทึนทึก ให้ดูจากเปลือกมะพร้าว หากขูดแล้ว มีสีขาว แสดงว่าใช้ได้ อีกข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ จับเขย่าลูกมะพร้าวแล้ว จะต้องมีเสียงน้ำมะพร้าวคลอนไปมา ถ้าไม่มีเสียง แสดงว่า มะพร้าวยังอ่อนอยู่ ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ทำขนม |
ประโยชน์ของมันสำปะหลังที่สำคัญที่สุด เช่นเดียวกับการ สรรพคุณของมันสำปะหลัง, มันสำปะหลัง มันโดดเด่นสำหรับการเป็นอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรค celiac และแพ้กลูเตนเป็นผลิตภัณฑ์อาหารปราศจากกลูเตนอย่างสมบูรณ์ |
1. มีพลังมาก:มันโดดเด่นสำหรับการเป็น อาหารที่มีพลังสูงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาหรือสำหรับเด็กและวัยรุ่นในช่วงของการเจริญเติบโตและการพัฒนาขอบคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิตามินและแร่ธาตุที่มีปริมาณสูง
2. คาร์โบไฮเดรตที่ดูดซับช้า:มันอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและยังย่อยง่ายดังนั้นจึงให้ความเต็มอิ่มและช่วยลดความอยากอาหารของเราในขณะที่ในเวลาเดียวกัน มันให้พลังงานที่ยอดเยี่ยมแก่เรา.
3. คุณสมบัติการย่อยและฝาด:มันมี คุณสมบัติของยาสมานแผล, emollients และ เกี่ยวกับการย่อยถูกแนะนำสำหรับผู้ที่มีกระเพาะอาหารหรือความผิดปกติทางเดินอาหารหรือเงื่อนไขเช่นอิจฉาริษยาหรือโรคกระเพาะ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับกรณีอิจฉาริษยา
4. ดีต่อการขนส่งในลำไส้:ไม่เพียง แต่ต้องขอบคุณปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซับช้า แต่ยังเป็นเพราะปริมาณใยอาหารของมันมันกลายเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเมื่อมันมาถึงความสมดุลและการปรับปรุง – การขนส่งในลำไส้ป้องกันการท้องผูกในทางบวก