ขนมกล้วย

เป็นขนมไทย ที่ทำง่าย ๆ เป็นการนำกล้วยสุกที่ทานไม่หมด นำมาแปรรูปให้เป็นขนมขนมกล้วยนึ่ง โรยหน้าด้วยมะพร้าวอ่อน กลิ่นหอม รสชาติอร่อย มักจะวางขายคู่กับขนมฟักทองนั่นเอง ขนมกล้วย เป็นขนมไทย คนไทยรู้จักมานาน มีส่วนผสมหลัก ได้แก่ กล้วยน้ำว้าสุก แป้งข้าวเจ้าและน้ำตาลทราย

คุณค่าทางโภชนาการ กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าสารอาหาร คือ วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามินเอสูง ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 และไนอะซีน (บี 6) ในบริมาณที่เท่าๆ กัน และกล้วยน้ำว้ายังมีคุณค่าสารอาหารพิเศษเด่นกว่ากล้วยชนิดอื่น คือ มีกรดอะมิโนที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ กรดอะมิโน อาร์จินิน และฮิสทิดิน กล้วยน้ำว้ายังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย ได้แก่ บรรเทาอาการเจ็บคอ เป็นยาระบายแก้ท้องผูก สามารถรักษาโรคกระเพาะได้ และยังมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย กะทิ เป็นส่วนผสมอีกตัวหนึ่งที่มีอยู่ในขนมกล้วย และเป็นที่ทราบกันดีสำหรับผู้ที่รักษาสุขภาพว่ากะทิทั่วไปที่เราบริโภคนั้นมีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างสูง และหากบริโภคเข้าไปจำนวนมาก ทำให้ไขมันไปอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งส่งผลทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง บางคนอาจมีอาการหลอดเลือดตีบตันได้สารอาหาร ขนมกล้วย (2 ชิ้น / 1 หน่วยบริโภค)พลังงาน(กิโลแคลอรี) 53.08 โปรตีน(กรัม) 00.60 โปรตีนจากพืช (กรัม) 00.06 ไขมัน (กรัม) 00.81 คาร์โบไฮเดรต (กรัม) 10.79 เส้นใยอาหาร (กรัม) 00.06 น้ำตาล (กรัม) 02.01 เหล็ก มิลลิกรัม)  00.23  แคลเซียม (มิลลิกรัม)* 04.75 +264  ฟอสฟอรัส (มิลลิกรัม) 10.59   * ค่าแคลเซียม ขนมกล้วย มาจากส่วนประกอบของอาหาร 04.75 มิลลิกรัม และจากการเติมเข้าไปอีก 264 มิลลิกรัม รวมค่าแคลเซียม ต่อ 1 ชิ้น คือ 269.74 มิลลิกรัม

ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. กล้วยน้ำว้า 10 ลูก 2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง 3. แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง 4. น้ำตาลทราย 1+1/4ถ้วยตวง 5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 6. หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง 7. เนื้อมะพร้าวขูด 2 ถ้วยตวง

ขั้นตอนวิธีการทำ 1. นำกล้วยน้ำว้า ไปบดให้ละเอียด 2. นำส่วนผสม แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทราย เกลือป่น หัวกะทิ ลงในชามผสม นวดส่วนผสมทั้งหมดด้วยมือ จนเป็นเนื้อเดียวกัน เตรียมไว้ 3. ตักส่วนผสมลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วนำมะพร้าวขูด โรยบนหน้าขนมกล้วย 4. นำขนมกล้วย ไปนึ่ง 30 นาที บนน้ำเดือด รอจนสุก ยกลงจากหม้อนึ่ง 5. นำขนมกล้วย จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับในการทำขนมกล้วย 1. ใช้กล้วยน้ำว้า ที่สุกกำลังดี ไม่งอมเกินไป 2. ถ้าอยากให้ตัวขนมกล้วยเหนียว ควรนวนให้นานหน่อย ช่วยให้ขนมเหนียวขึ้น และถ้าใช้เวลานึ่งนาน จะให้น้ำในตัวขนมระเหยออกไปมากกว่าปกติ ทำให้สีขนมเข้มขึ้น 3. มะพร้าวที่ใส่ลงในตัวขนม หรือโรยหน้า ควรเป็นมะพร้าวขูดขาวเส้นเล็กละเอียด และเป็นมะพร้าวทึนทึก ไม่แก่มากเกินไป

ประโยชน์ของขนมกล้วย 1. กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าสารอาหาร มีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอสูง ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 และไนอะซิน 2. กล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโน ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ กรดอะมิโน อาร์จินิน และฮิสทิดิน 3. กล้วยน้ำว้า ยังมีสรรพคุณทางยา ได้แก่ บรรเทาอาการเจ็บคอ เป็นยาระบายแก้ท้องผูก สามารถรักษาโรคกระเพาะได้ และยังเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย

ข้อควรระวัง

กะทิ อีกหนึ่งส่วนผสม ที่มีอยู่ในขนมกล้วย  มีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างสูง และหากบริโภคเข้าไปจำนวนมาก ทำให้ไขมันไปอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ ส่งผลทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง บางคนอาจมีอาการหลอดเลือดตีบตันได้ ควรทานขนมกล้วย ในปริมาณที่พอดีด้วย