
ยำหนังหมู
ยำหนัง หรือ ยำหนังฮอ เป็นตำรับอาหารที่ใช้หนังวัวหนังควายแห้ง ที่ต้มเปื่อยแล้ว ขูดเป็นชิ้นบาง ๆ บ้างก็หั่นเป็นชิ้น (ฮอ หมายถึง ทำให้บาง ทำให้ละเอียด) แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง (สิรวิชญ์ จำรัส, สัมภาษณ์, 18 มิถุนายน 2550) ใช้หนังวัวหนือหนังหมู หนังที่ต้มเปื่อยแล้ว ขูดเป็นชิ้นบาง ๆ บ้างก็หั่นเป็นชิ้นพอค แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง
หนังเค็ม หรือ หนังควายจี่ ถือได้ว่าเป็นของคู่กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการทำหนังเค็มก็เป็นวิธีการถนอมอาหารด้วยการหมัก เป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะประจำถิ่น จนได้อาหารหลากหลายเมนู และสำหรับกรรมวิธีการปรุงและการประกอบอาหารของชาวเหนือส่วนใหญ่มักจะมีผักค่อนข้างมาก หลากหลายชนิด
วิธีการปรุงก็ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายแบบโบราณที่สามารถนำมาใช้ได้กับสมัยปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นของอาหารเหนือที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และถ่ายทอดให้คงอยู่จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้อาหารเหล่านี้ยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน
คุณค่าทางโภชนาการ ข้อมูลโภชนาการ, แคลอรี่, พลังงาน และสารอาหาร ใน ยำแหนม+หนังหมู ในปริมาณ 1 จาน มีพลังงานทั้งหมด 578.4 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 35.1 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 16 กรัม, ไขมัน 41.5 กรัม |
ส่วนผสมเครื่องแกง 1. พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด 2. กระเทียม 10 กลีบ 3. หอมแดง 5 หัว 4. ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ 5. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ 6. กะปิแกง 1 ช้อนชา 7. ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ 8. เกลือ 1/2 ช้อนชา 9. ผงชูรสนิดหน่อย 10. น้ำปลาปรุงรสตามชอบ ส่วนผสมวัตถุดิบ 1. หนังแห้ง 100 กรัม 2. พริกป่น 1/2 ช้อนชา 3. ใบมะกรูด 5 ใบ 4. กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ 5. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ 6. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 8. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ |
ขั้นตอนการทำ ขั้นตอนที่ 1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด ขั้นตอนที่ 2. เจียวกระเทียมกับน้ำมัน ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ขั้นตอนที่ 3. ใส่พริกป่น ขั้นตอนที่ 4. ใส่หนังที่ต้มแล้วลงผัดให้เข้ากัน พอสุก ใส่ใบมะกรูด ปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟครับ “ก่อนต้มหนัง ควรนำไปแช่น้ำก่อน ประมาณ 10 นาที และไม่ควรต้มให้เปื่อยเกินไป จะทำให้หนังเละ เลือกหนังแห้งที่มีสีเหลือง และไม่หนาเกินไป |
ประโยชน์ทั้งหมดของหนังหมู |
1. แหล่งโปรตีน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เปลือกหมูจึงเป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมไปด้วย ตามบทความในนิตยสาร Men’s Health หนังหมูมีโปรตีน 28 กรัมต่อมื้อ ซึ่งมากกว่า 9 เท่า โปรตีน เนื่องจากผิวหนังมีกรดอะมิโนน้อย
2. ระดับคาร์โบไฮเดรตต่ำ ระดับคาร์โบไฮเดรตต่ำอาจหมายความว่าคุณมีโอกาสลดน้ำหนักได้ดี เมื่อรับประทานอาหารร่วมกับ เนื้อหาสูงคาร์โบไฮเดรตคนกำลังเพิ่มน้ำหนัก บทความด้านสุขภาพของผู้ชายปี 2014 ระบุว่าเนื้อหมูมีคาร์โบไฮเดรต 0%
3. ประกอบด้วยไขมันที่ดีต่อสุขภาพเช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก ในบทความเดียวกันจาก สุขภาพของผู้ชายว่ากันว่าไขมันในหนังหมูนั้นไม่อิ่มตัว 43% โดยที่ไขมันไม่อิ่มตัวจะปรากฏในรูปของกรดโอเลอิก กรดโอเลอิกเป็นไขมันธรรมชาติที่พบใน สินค้าต่าง ๆ น้ำมันจากสัตว์และพืช รวมทั้งน้ำมันมะกอก
4. ไม่เพิ่มน้ำตาลในเลือด หมูไม่ได้เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าหมูไม่มีน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรต
5. แหล่งที่มาของโซเดียม โซเดียมมีประโยชน์ต่อระบบวิกฤตของร่างกาย โซเดียมช่วยควบคุมการดูดซึมกลูโคส รักษาระดับของเหลวในร่างกาย ปรับปรุงการทำงานของสมอง ส่งเสริมหัวใจ ขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ และปรับปรุงสภาพผิว
ความเสี่ยงต่อสุขภาพเมื่อรับประทานหนังหมู 1. ไขมัน หนังหมูแต่ละชิ้นสามารถมีไขมันได้ 9 กรัม หากคุณควบคุมอาหารโดยไม่ควรเกิน 2,000 แคลอรี่ต่อวัน คุณสามารถซื้อได้เพียง 44-78 กรัม ซึ่งเท่ากับ 400-700 แคลอรี่ ในกรณีนี้เพียง 20-35% การบริโภคประจำวันแคลอรี่อาจมาจากไขมัน หากคุณควบคุมอาหาร 2,000 แคลอรีต่อวัน หนังหมู 30 กรัมจะมีไขมัน 12-20% 2. คอเลสเตอรอล เปลือกหมูเต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เมื่อสารเหล่านี้ผสมกัน จะเพิ่มไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี) เมื่อระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีเพิ่มขึ้น หลอดเลือดแดงจะถูกปิดกั้น ซึ่งอาจนำไปสู่อาการหัวใจวายได้ หนังหมู 30 กรัมมีไขมันอิ่มตัวมากกว่า 3.2 กรัมและมีคอเลสเตอรอล 27 มก. 3. โซเดียม หนังหมูที่อุดมด้วยโซเดียมมีผลเสียต่อหัวใจเพิ่มขึ้น ความดันโลหิต ผู้ผลิตลดคุณภาพของเนื้อหมูด้วยการเพิ่มสารปรุงแต่งรสซึ่งทำให้สุขภาพโดยรวมแย่ลง โดยทั่วไปแล้ว บุคคลจะบริโภคโซเดียม 2,300 มล. ต่อวันเมื่อมีอาการป่วย ของระบบหัวใจและหลอดเลือดอนุญาตให้ใช้โซเดียมได้ไม่เกิน 1,500 มล. ต่อวัน หนังหมู 30 กรัมมีโซเดียม 510 มก. ซึ่งคิดเป็น 22-34% ของโซเดียมที่ยอมรับได้ |