admin@phraefoodthailand.com

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ อาหารจังหวัดแพร่


ตำขนุน

ตำขนุน หรือ ตำบ่าหนุน เป็นตำรับอาหารที่มีวิธีการปรุง เรียกว่า ตำ คือการนำเอาส่วนผสม คือขนุนอ่อนต้มให้เปื่อย แล้วนำมาโขลกรวมกันเครื่องแกง นำไปผัดกับน้ำมันกระเทียมเจียว ใส่มะเขือเทศ ใส่ใบมะกรูด รับประทานกับกระเทียมเจียว ผักชีต้นหอม และพริกแห้งทอด (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 2409; สิรวิชญ์ จำรัส, สัมภาษณ์, 18 มิถุนายน 2550) “ต๋ำม่ะหนุน”หรือ“ตำขนุน” เป็นอาหารที่คนเหนือค่อนข้างจะคุ้นชิน เรียกได้ว่า เป็นอาหารหลักที่กินกันบ่อย ๆ เมนูหนึ่งเลยก็ว่าได้ เทศกาลยอดฮิตที่คนเหนือมักมีเมนูตำขนุนวางบนโต๊ะอาหาร ก็คือ เทศกาลสิ้นปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเทศกาลที่คนเหนือเรียกว่า “ปี๋ใหม่เมือง” หรือเทศกาลสงกรานต์ ด้วยความที่มีชื่อเป็นมงคล เมื่อกินแล้วคนเหนือเชื่อว่าจะมีคนอุดหนุนค้ำชู โชคดีตลอดทั้งปี “บ่าหนุน” ภาษาไทยเรียก “ขนุน” ภาษาไทยสมัยพ่อขุนรามฯ และไทใหญ่เรียก “หมากลาง” ลาวเรียก “บักมี้” ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Artocarpus heterophyllus Lam. ในวงศ์ MORACEAE ชื่อสามัญ Jack fruit tree ชาวล้านนานิยมปลูกไว้ทิศตะวันตกเพื่อความเป้นสิริมงคล ใช้ใบผูกติดหรือรองก้นหลุมเสาเอกไม้ขนุนถ้านำมาแกะเป็นพระพุทธรูปบูชาจะเกิดความมั่งมีศรีสุข เมล็ดขนุนถ้ามีลักษณะเป็นหิน (แสงบ่าหนุน-คด) ใช้เป็นเครื่องรางด้านคงกระพันชาตรีและเมตตามหานิยม งานแต่งงานนิยมแกงขนุนเพื่อเอาเคล็ดให้รักกันเหนียวแน่นดุจยางขนุนในวันปากปี คือวันที่ถัดจากวันพญาวัน (เถลิงศก) ล้านนาทุกครัวเรือนจะแกงขนุนเพื่อให้เกิดความรุ่งโรจน์เพราะมีสิ่งค้ำหนุน ยางบ่าหนุนใช้ทำเป้นตังดักนก ดักแมลงไม้
คุณค่าทางโภชนาการ
ขนุนอ่อน ขนุนอ่อน 100 กรัม มีไฟเบอร์สูงถึง 6.7 กรัม มีปริมาณน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยขนุน 100 กรัม มีน้ำตาลน้อยกว่า 1 กรัม และมีคาร์โบไฮเดรตเพียง 1.7 กรัมเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับผู้บริโภคกลุ่ม low-carb diet อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินซี แร่ธาตุทั้งโปแตสเซียม แคลเซียม และธาตุเหล็ก
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อขนุนดิบ ต่อ 100 กรัม พลังงาน 95 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 23.25 กรัม น้ำตาล 19.08 กรัม เส้นใย 1.5 กรัม ไขมัน 0.64 กรัม โปรตีน 1.72 กรัม วิตามินเอ 5 ไมโครกรัม 1% เบต้าแคโรทีน 61 ไมโครกรัม 1% ลูทีน และ ซีแซนทีน 157 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.105 มิลลิกรัม 9% วิตามินบี2 0.055 มิลลิกรัม 5% วิตามินบี3 0.92 มิลลิกรัม 6% วิตามินบี5 0.235 มิลลิกรัม 5% วิตามินบี6 0.329 มิลลิกรัม 25% วิตามินบี9 24 ไมโครกรัม 6% วิตามินซี 14.7 มิลลิกรัม 17% วิตามินอี 0.34 มิลลิกรัม 2% ต้นขนุนธาตุแคลเซียม 24 มิลลิกรัม 2% ธาตุเหล็ก 0.23 มิลลิกรัม 2% ธาตุแมกนีเซียม 29 มิลลิกรัม 8% ธาตุแมงกานีส 0.043 มิลลิกรัม 2% ธาตุฟอสฟอรัส 21 มิลลิกรัม 3% ธาตุโพแทสเซียม 448 มิลลิกรัม 10% ธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม 0% ธาตุสังกะสี 0.13 มิลลิกรัม 1%
ส่วนผสมเครื่องแกง
1. พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด      2. กระเทียม 10 กลีบ
3. หอมแดง 5 หัว             4. ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
5. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ     6. กะปิ 1 ช้อนชา
7. ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ   8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมวัตถุดิบ
1. ขนุนอ่อน 400 กรัม        2. เนื้อหมูสับ 100 กรัม
3. ใบมะกรูด 5 ใบ             4. กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
5. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ       6. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด  8. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
9. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ
ขั้นตอนที่ 1. หั่นขนุนอ่อนตามขวาง แล้วนำไปต้มให้เปื่อย ตักขึ้น พักไว้ให้เย็น
ขั้นตอนที่ 2. โขลกขนุนให้ละเอียด พักไว้
ขั้นตอนที่ 3. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
ขั้นตอนที่ 4. เจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม
ขั้นตอนที่ 5. ใส่หมูสับ แล้วผัดให้หมูสุก
ขั้นตอนที่ 6. ใส่มะเขือเทศ ใส่ขนุนลงผัดให้เข้ากัน ตามด้วยใบมะกรูด ปิดไฟ ตักใส่จาน
สรรพคุณขนุนอ่อน

1. ในฐานะยาพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองก็คือบำรุงน้ำนมในหญิงแม่ลูกอ่อนที่ยังให้น้ำนมลูกช่วยเร่งให้น้ำนมมีมากขึ้นแกงขนุนอ่อนทุกชนิดจึงเป็นอาหารประจำของหญิงแม่ลูกอ่อนนอกจากนั้นยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆช่วยทำให้ขับถ่ายง่ายขับถ่ายดีบำรุงผิวพรรณให้ผ่องใสเป็นนวลงามและบำรุงกำลังทำให้กระปรี้กระเปร่า

2. คุณสมบัติของขนุนอ่อนเป็นอาหารฤทธิ์เย็นมีรสฝาดอ่อนที่เป็นตัวยาเป็นผักสีขาวอาหารสีขาวเป็นสีที่รวมแสงสีทั้ง 7 เข้าหากันอย่างลงตัวจึงเกิดเป็นอาหารสีขาวคือเนื้อขนุนอ่อนนั่นเองในอาหารสีขาวมีสารสำคัญคือแซนโทน (Xanthone) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบลดอาการปวดข้อเท้าต้านเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุลรักษาระบบภูมิคุ้มกันเป็นสารอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์แสงของลูกขนุนอ่อน



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Search

About

อาหารล้านนาชวนให้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยที่ผสมผสานความเผ็ด เค็ม หวาน และเปรี้ยวได้อย่างลงตัว สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวล้านนาที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความอุดมสมบูรณ์

Tags

There’s no content to show here yet.

Gallery