admin@phraefoodthailand.com

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ อาหารจังหวัดแพร่


ชมพู่,มะเหมี่ยว

ชมพู่มะเหมี่ยว หรือ มะเหมี่ยว (Pomerac) จัดเป็นชมพู่ชนิดหนึ่งที่นิยมนำผลสุกมารับประทานสด เนื่องจาก เนื้อผลหนา เนื้อมีความนุ่ม มีรสเปรี้ยวอมหวาน และมีกลิ่นหอม นอกจากนั้น ยังใช้ประโยชน์เพื่อประกอบอาหาร และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ แยม ไวน์ และน้ำผลไม้ เป็นต้น• วงศ์ : MYRTACEAE
• วิทยาศาสตร์ : Eugenia malaccensis Linn.
• ชื่อสามัญ : – Pomerac ,– Malay Apple
• ชื่อท้องถิ่น : – ชมพู่มะเหมี่ยว,– มะเหมี่ยว,– ชมพู่สาแหรก
– ชมพู่แดง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
ชมพู่มะเหมี่ยว เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งมาก และเป็นกิ่งขนาดใหญ่ มีกิ่งขนาดเล็กเฉพาะปลายยอด เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวลำต้นขรุขระ และสากมือ
ใบ
ใบชมพู่มะเหมี่ยว ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวตรงข้ามสลับกันเป็นคู่ ๆ บนกิ่ง ใบอ่อนหรือยอดอ่อนมีสีชมพู ใบแก่ขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม ใบมีรูปรี โคนใบมน ปลายใบแหลม กว้างประมาณ 8-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-25 เซนติเมตร แผ่นใบ และขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา เป็นมัน และค่อนข้างแข็งเหนียว แผ่นใบมีเส้นกลางใบสีขาวอมเขียวชัดเจน และมีเส้นแขนงใบ 20-26 คู่ ปลายเส้นแขนงใบสิ้นสุดก่อนถึงขอบใบ
ดอก
ดอกชมพู่มะเหมี่ยวออกเป็นช่อ และออกเป็นช่อกระจุกใกล้กันบนกิ่งขนาดใหญ่ แต่ละช่อมีดอกประมาณ 3-5 ดอก ดอกตูมมีลักษณะเป็นก้อนทรงกลมที่ห่อหุ้มด้วยกลีบเลี้ยง ดอกบานจะประกอบด้วยกลีบเลี้ยงสีน้ำตาล จำนวน 5 กลีบ ถัดมาเป็นกลีบดอกที่มีลักษณะวงกลม จำนวน 5 กลีบ แผ่นกลีบดอกมีสีชมพูเข้ม ถัดมาตรงกลางเป็นก้านเกสรตัวผู้จำนวนมาก ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร สีก้านเกสรเป็นสีชมพูเข้ม ส่วนด้านในสุดจะเป็นเกสรตัวเมีย และรังไข่ที่ฝังอยู่บริเวณฐานดอก และก้านเกสรตัวผู้จะร่วงหลังจากดอกบานแล้วเต็มที่แล้วผล และเมล็ด
ผลชมพูมะเหมี่ยวมีรูประฆัง อวบอ้วน ขนาดผลประมาณ 3-4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวอมขาว และค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม และเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมแดง เนื้อผลหนา และนุ่ม มีสีขาว ภายในผลมีเมล็ดขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยเมล็ด 1-5 เมล็ด เกาะกันเป็นก้อนใหญ่ จนมีลักษณะเป็นพู ตัวเมล็ดแยกออกจากเนื้อผล ไม่เกาะกับเนื้อผล เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลอมดำ เมล็ดในผลสุกจะปริแตกเป็นร่องของแต่ละเมล็ดจนให้เห็นเนื้อเมล็ด และต้นอ่อนด้านในที่มีสีขาวอมเขียว
ชมพู่มะเหมี่ยว มีชื่อท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป เช่น มะเหมี่ยว, ชมพู่สาแหลก หรือชมพู่แดง แล้วแต่ใครจะเรียกแบบไหน แต่สุดท้ายก็คือผลไม้ชนิดเดียวกันนี่แหละ เป็นต้นไม้ยืนต้น ขนาดกลาง ๆ สูงประมาณ 6-15 เมตร มีกิ่งก้านเยอะ เป็นไม้ผลที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน เพื่อให้ร่มเงาและกินผลด้วย โดยจะนิยมกินผลสุก เพราะจะมีรสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อหนานุ่ม มีกลิ่นหอมเหมือนดอกกุหลาบ และรูปร่างคล้ายผลแอปเปิ้ล
มะเหมี่ยวมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย ก่อนจะแพร่เข้ามาในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย ปัจจุบันมะเหมี่ยวปลูกได้ในทุกภาคของไทย หากดูแลดี มีอาหารและน้ำมากเพียงพอต่อการเติบโตก็จะมีอายุยืนเป็นหลายสิบปี ยิ่งอายุมากก็ยิ่งออกผลที่มีน้ำหนักมาก และอร่อยขึ้นตามไปด้วย
มะเมี่ยวจะมีกิ่งก้านเยอะ อีกทั้งยังเป็นกิ่งใหญ่ มีกิ่งเล็ก ๆ แค่ปลายยอดเท่านั้น เปลือกสีน้ำตาลขรุขระสากมือ ใบจะออกเป็นใบเดียว ใบและยอดอ่อนจะเป็นสีชมพู ใบแก่จะสีเขียวเข้ม ดอกจะเป็นสีชมพูสวย ออกเป็นช่อกระจุก ๆ 3-5 ดอก บริเวณกิ่งใหญ่ ผลมีรูปร่างคล้ายระฆังหรือแอปเปิ้ล ผลสุกเต็มที่จะมีสีม่วงอมแดงเข้ม เนื้อหนานุ่มสีขาว รสเปรี้ยวอมหวาน และเมล็ดจะมี 1-5 เมล็ดซึ่งจะไม่เกาะกับเนื้อผล

คุณค่าทางโภชนาการ ข้อมูลโภชนาการ, แคลอรี่, พลังงาน และสารอาหาร ใน ชมพู่มะเหมี่ยว ในปริมาณ 100g มีพลังงานทั้งหมด 24 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 0.5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5.3 กรัม, ไขมัน 0.1 กรัม
ตัวอย่างเมนู จากยำมะเหมี่ยว
ส่วนผสมวัตถุดิบ
1. ชมพู่มะเหมี่ยว 4-5 ผล        2. ต้นหอม 4 ต้น
3. ผักชี 1 ต้น                       4. คึ่นช่าย 1 ต้น
5. หอมใหญ่ 1/2 หัว              6. ผักชีใบเลื่อย 5 ใบ
7. มะนาว 2 ผล                    8. น้ำปลา 3 ชต
9. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 10. มะเขือเทศ (ไม่ใส่ก็ได้) 3 ผล
11. พริกขี้หนู 15 เม็ด            12. เนื้อสัตว์ที่ใช้
13. หมูสับ 200 กรัม
(อาจใช้เนื้อสัตว์อื่นผสมด้วยก็ได้ เช่น กุ้งปลาหมึก ปลา ฯลฯ)
ขั้นตอนวิธีการทำ
ขั้นตอนที่ 1 หั่นชมพู่เป็นชิ้นพอคำ สับหมูแล้วนำไปรวนไฟให้สุกพร้อมน้ำคลุกคลิกไว้เป็นเชื้อน้ำยำ
ขั้นตอนที่ 2 นำมายำโดยใส่หมูสับกับน้ำรวนหมู (แบ่งหมูสับไว้โรยหน้านิดหน่อย) ปรุงรสด้วยน้ำปลา พริกขี้หนูทุบสับหยาบ บีบมะนาว ใส่หอมใหญ่ น้ำตาล ชิมรสเปรี้ยวเผ็ดนำเค็ม เน้นรสจัดจ้าน ตามด้วยต้นหอม คึ่นช่าย ผักชีใบเลื่อยหั่นฝอย ท้ายสุดใส่ชมพู่มะเหมี่ยว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมและปรุงรสอีกครั้งตามชอบ
ขั้นตอนที่ 3 จัดใส่จานนำหมูสับที่แบ่งไว้โรยหน้าเป็นท็อปปิ้ง ยกเสิร์ฟกับเครื่องดื่มเย็น ๆ
ประโยชน์ชมพู่มะเหมี่ยว/มะเหมี่ยว
1. ผลสุกชมพู่มะเหมี่ยว นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด เนื่องจากมีเนื้อหนา กรอบ และมีรสเปรี้ยวอมหวาน
2. ยอดอ่อนชมพู่มะเหมี่ยว ใช้รับประทานคู่กับอาหาร อาทิ ซุปหน่อไม้ ลาบ หรือเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก
3. ผลห่ามของชมพูมะเหมี่ยวใช้ประกอบอาหารจำพวกแกงต่างๆ
4. ผลสุกชมพู่มะเหมี่ยวนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ แยม น้ำชมพูมะเหมี่ยว และไวน์ เป็นต้น
5. เนื่องจากดอกชมพู่มะเหมี่ยวมีสีชมพูเข้มสวยงาม จึงใช้ปลูกเป็นไม้ประดับร่วมด้วยกับการปลูกเพื่อรับประทานผล



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Search

About

อาหารล้านนาชวนให้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยที่ผสมผสานความเผ็ด เค็ม หวาน และเปรี้ยวได้อย่างลงตัว สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวล้านนาที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความอุดมสมบูรณ์

Tags

There’s no content to show here yet.

Gallery